logo
PetsThai

สาระน่ารู้

การดูแลสัตว์

โรคของสัตว์

สาระน่ารู้
การดูแลสัตว์
โรคของสัตว์

หน้าหลัก

โรคของสัตว์

แมวท้องอืด ท้องเสีย สาเหตุ และ วิธีดูแล

category icon

โรคของสัตว์

โรคในแมว
แมวท้องอืด

Share :

คัดลอกลิ้งก์

แมวท้องอืด ท้องเสีย สาเหตุ และ วิธีดูแล


ทำความเข้าใจกับอาการท้องอืดและท้องเสียในแมว

อาการท้องอืดในแมวคืออะไร?

  • ท้องป่องแข็ง

  • เรอบ่อยหรือพยายามขย้อน

  • ไม่อยากอาหาร ซึม ไม่วิ่งเล่น

อาการท้องเสียในแมวคืออะไร?

  • อุจจาระเหลวหรือมีน้ำปน

  • ถ่ายบ่อยกว่าปกติ

  • มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ หรือมีเลือดปน

ตารางเปรียบเทียบอาการ

อาการท้องอืดท้องเสีย
ท้องแข็ง✓✕
ถ่ายเหลว✕✓
ซึม ไม่กินอาหาร✓✓
มีลมในท้อง✓✕
ถ่ายมีเลือดปน✕✓


สาเหตุของท้องอืดและท้องเสียในแมว

สาเหตุของอาการท้องอืด

  • กินอาหารเร็วเกินไป

  • อาหารไม่ย่อย เช่น นมวัว หรืออาหารมัน

  • ภาวะลำไส้อักเสบ

  • พยาธิภายในระบบย่อยอาหาร

สาเหตุของอาการท้องเสีย

  • การเปลี่ยนอาหารกะทันหัน

  • ติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย เช่น Feline Parvovirus

  • อาหารเป็นพิษหรือเน่าเสีย

  • พยาธิหรือปรสิตในลำไส้


วิธีดูแลเบื้องต้นเมื่อแมวมีอาการ

หากแมวท้องอืด

  • งดให้อาหารทันที 6-8 ชั่วโมง

  • ใช้น้ำอุ่นนวดเบา ๆ ที่หน้าท้อง

  • ให้จิบน้ำบ่อย ๆ แบบทีละน้อย

หากแมวท้องเสีย

  • งดให้อาหารที่เสี่ยง เช่น นมวัว อาหารเปียก

  • ให้น้ำสะอาดเพื่อลดการขาดน้ำ

  • พิจารณาให้น้ำเกลือแร่สำหรับสัตว์

ข้อควรสังเกต

  • หากแมวไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ควรพบสัตวแพทย์

  • หากอาการรุนแรง เช่น ถ่ายเป็นเลือด หรือแมวซึมมาก ให้รีบพาไปโรงพยาบาลทันที


ควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์เมื่อใด

อาการที่ไม่ควรรอดูอาการเอง

  • อาเจียนร่วมกับถ่าย

  • ถ่ายเป็นเลือด สีดำ หรือมูก

  • ท้องบวมผิดปกติ

  • ซึมจนไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า

การวินิจฉัยจากสัตวแพทย์

  • ตรวจเลือด ตรวจอุจจาระ

  • ตรวจพยาธิภายใน

  • X-ray หรืออัลตราซาวด์หน้าท้อง

สิ่งที่ควรแจ้งสัตวแพทย์

  • อาหารที่แมวกิน

  • ระยะเวลาที่เริ่มมีอาการ

  • พฤติกรรมที่ผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกันไม่ให้แมวท้องอืดหรือท้องเสียอีก

การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาเสมอ โดยเฉพาะกับสัตว์เลี้ยงอย่างแมวที่มีระบบทางเดินอาหารค่อนข้างอ่อนไหว หากเจ้าของสามารถจัดการเรื่องอาหารและสุขภาพของแมวได้ดี จะช่วยลดความเสี่ยงจากอาการท้องอืด ท้องเสีย หรือปัญหาในระบบย่อยอาหารได้อย่างมาก

ดูแลเรื่องอาหาร

หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้แมวท้องอืดหรือท้องเสียคือการให้อาหารที่ไม่เหมาะสมหรือเปลี่ยนแปลงอาหารอย่างกะทันหัน

1. ไม่เปลี่ยนอาหารกะทันหัน

การเปลี่ยนอาหารควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยใช้เวลาประมาณ 7–10 วันผสมอาหารเก่าและใหม่ในสัดส่วนที่ค่อย ๆ เปลี่ยน เช่น:

วันที่ อาหารเก่า อาหารใหม่
1-3 75% 25%
4-6 50% 50%
7-9 25% 75%
10+ 0% 100%

หากเปลี่ยนทันที อาจทำให้แมวเกิดอาการ digestive upset (ไดเจสทีฟ อัพเซต) = ความผิดปกติในระบบย่อยอาหาร


2. หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดอาการ

  • นมวัว – แมวส่วนใหญ่ไม่มีเอนไซม์ lactase (แลคเทส) สำหรับย่อย lactose (แลคโทส) ในนมวัว

  • อาหารมัน/ทอด – ย่อยยาก อาจทำให้ท้องเสีย

  • อาหารหมดอายุหรือเน่าเสีย – ทำให้แมวติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารได้


3. ให้อาหารตามเวลา

การให้อาหารแมวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยควบคุมระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดี ไม่ปล่อยให้แมวหิวจัดหรือกินเร็วเกินไป

Tips: ควรให้แมวกินอาหารปริมาณเล็กน้อยแต่บ่อยครั้ง เช่น วันละ 2-3 มื้อ


ดูแลสุขภาพแมวทั่วไป

แมวที่สุขภาพดีจะมีระบบย่อยอาหารที่แข็งแรง ทำให้ลดโอกาสการท้องอืดและท้องเสียลงได้มาก

1. ตรวจสุขภาพประจำปี

ควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจเช็กร่างกาย เช่น

  • ตรวจฟัน

  • ตรวจอุจจาระ

  • ตรวจการทำงานของตับ ไต


2. ถ่ายพยาธิตามกำหนด

พยาธิในลำไส้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอาการท้องเสีย แมวควรได้รับการถ่ายพยาธิอย่างน้อยทุก 3–6 เดือน


3. ให้แมวออกกำลังกายพอเหมาะ

การเคลื่อนไหวจะช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและลดความเครียด (ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ท้องเสีย)

  • เล่นกับแมววันละ 10–15 นาที

  • ใช้ของเล่นแมว เช่น ไม้ตกแมว, ลูกบอล


Q&A คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับแมวท้องอืด ท้องเสีย

Q: แมวท้องเสียกินอะไรได้บ้าง?
A: อาหารย่อยง่าย เช่น ข้าวต้มเนื้อไก่ต้มไม่มีเครื่องปรุง หรืออาหารสูตรเฉพาะสำหรับแมวท้องเสียที่สัตวแพทย์แนะนำ

Q: ถ้าแมวท้องอืด ควรให้กินยาไหม?
A: ห้ามให้ยาคนกับแมวโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์ เพราะอาจเป็นอันตราย

Q: ท้องเสียเป็นบ่อยควรทำอย่างไร?
A: ควรตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เพื่อตรวจระบบลำไส้และตรวจหาพยาธิ


สรุปท้ายบท

อาการท้องอืดและท้องเสียในแมวเป็นปัญหาที่พบบ่อยและไม่ควรมองข้าม การเข้าใจสาเหตุ สังเกตอาการ และดูแลเบื้องต้นให้ถูกต้องสามารถช่วยให้แมวฟื้นตัวเร็วขึ้น และหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนในอนาคต หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที เพราะสุขภาพของแมวคือความสุขของคนเลี้ยง

Admin Sea
Author 

Sea

4:12 AM Thu, Jun 19, 2025

Comment

บทความที่เกี่ยวข้อง (Related Article)


article image

เชื้อราสุนัขคืออะไร? วิธีรักษาและป้องกันโรคเชื้อราในสุนัข

2 months ago
article image

น้องหมาขนร่วง: สาเหตุ วิธีป้องกัน และการดูแลรักษา

2 months ago
article image

แมวเป็นฮีทสโตรก (Heatstroke in Cats)

2 months ago
article image

โรค FPI ในแมวคืออะไร?

2 months ago
article image

สีอ้วกของแมวสื่อถึงอะไร?

2 months ago
article image

ปัญหาก้อนขนอุดตันในแมว (Hairball) สาเหตุ อันตราย วิธีป้องกัน

2 months ago
article image

พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้แมวเป็นโรคข้อเสื่อม

2 months ago

กดติดตาม PetsThai บนโซเชียล!

อย่าพลาดเรื่องราวน่ารักและสาระดี ๆ เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง กดติดตาม PetsThai บน Facebook เพื่ออัปเดตความรู้เรื่องการดูแลสัตว์ โรคที่ควรรู้ และเกร็ดน่ารู้ต่าง ๆ ก่อนใคร!

PetsThai
facebook fanpage

PetsThai.com (เพ็ท ไทย)

รวมสาระน่ารู้เกี่ยวกับสัตว์ต่าง ๆ เช่น การดูแลสัตว์เลี้ยง วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น และโรคของสัตว์ เพื่อให้เราเข้าใจน้อง ๆ มากขึ้น

Privacy Policy

หมวดหมู่บทความ

  • สาระน่ารู้
  • การดูแลสัตว์
  • โรคของสัตว์

ติดต่อเรา

contact@petsthai.com

PetsThai

© 2025 PetsThai.com All Right Reserved.